fbpx

Mommylicious Juice

Category: Pregnancy

  • Mommylicious Juice ได้รับเลือกให้เป็นเครื่องดื่มอันดับหนึ่งสำหรับคนท้อง

    Mommylicious Juice ได้รับเลือกให้เป็นเครื่องดื่มอันดับหนึ่งสำหรับคนท้อง

    #น้ำหัวปลีผสมงาดำ มัมมี้ลิเชียสจูซ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเครื่องดื่มอันดับหนึ่งสำหรับคนท้องโดยเวบไซต์ mybest การจัดอันดับในครั้งนี้ประกอบด้วยเครื่องดื่ม 10 ชนิดที่ทาง mybest นำมาเสนอให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์พิจารณา โดยคำนึงถึงสารอาหารที่มีประโยชน์ เหมาะสำหรับคุณแม่ และปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มที่ควรมีปริมาณน้อยเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ บำรุงจากแม่สู่ลูก น้ำหัวปลีของมัมมี้ลิเชียสผลิตจากธรรมชาติ 100% อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก จากหัวปลี ช่วยบำรุงโลหิต และกระตุ้นการผลิตนมแม่ ผสมผสานกับงาดำที่มีแคลเซียมสูง ช่วยบำรุงกระดูก และดูแลเส้นผม ป้องกันผมขาดร่วง มีรสชาติอร่อย ดื่มง่าย รสกลมกล่อม จึงเหมาะที่จะดื่มบำรุงทั้งในช่วงกำลังตั้งครรภ์และหลังคลอด มัมมี้ลิเชียสจูซจึงขอขอบคุณทางเวบไซต์ mybest มา ณ โอกาสนี้ค่ะ อ่านบทความ 10 อันดับเครื่องดื่มสำหรับคนท้อง ที่นี่: https://my-best.in.th/50972

  • คู่มือความเป็นแม่

    คู่มือความเป็นแม่

    ความหมายของคำว่า แม่ “แม่” เป็นคำเรียกผู้ให้กำเนิด ส่วนความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายคำว่า แม่ หมายถึง “หญิงในฐานะผู้ให้กำเนิดแก่ลูก หรือคำที่ลูกเรียกหญิงผู้ให้กำเนิดตน” ซึ่งนอกจากผู้ให้กำเนิด สำหรับลูกนั้น แม่มีความสำคัญและยิ่งใหญ่ นอกจากให้กำเนิดแล้วยังเลี้ยงดูตั้งแต่เล็กจนโต แม่ยังมีความรักความเป็นห่วงให้ลูกอย่างไม่มีวันจบ คำว่า “แม่” ในแต่ละภาษามีคำเรียกที่ต่างออกไป เช่น ภาษาอังกฤษเรียกว่า มาเธอร์ (Mother) ภาษาฝรั่งเศสใช้คำว่า มามอง (Maman) ภาษาจีนเรียกว่า มาหม่ะ (Mama) ภาษาเกาหลีใช้คำว่า ออมม่า (Omma) ซึ่งถึงแม้เสียงจะต่างกันแต่มีความคล้ายกันด้วยเสียง “ม” ซึ่งเป็นเสียงแรกตามธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งนักภาษาศาสตร์ได้ศึกษาว่าเสียง “มามา” เป็นเสียงที่ง่ายสำหรับทารก ในการออกเสียงเพื่อขออาหาร หรือเมื่อต้องการความอบอุ่น ปลอดภัย ซึ่งแสดงว่าคำว่า “แม่” ยังบ่งบอกถึงความผูกพันในใจด้วย หน้าที่ของแม่ที่มีต่อลูกตามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๕ ครอบครัว หมวด ๒ สิทธิและหน้าที่ของบิดามารดาและบุตร (มาตรา ๑๕๖๑ – ๑๕๘๔/๑) ได้ระบุถึงสิทธิและหน้าของบิดามารดาและบุตร มีตัวอย่างดังนี้ มาตรา…

  • เรื่องน่ารู้เมื่ออัลตราซาวด์

    เรื่องน่ารู้เมื่ออัลตราซาวด์

    การอัลตราซาวด์ คือ การใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการสร้างภาพจากภายในช่องท้อง หรือภายในครรภ์เพื่อตรวจสอบการทำงาน และรูปร่างของทารกในครรภ์ ซึ่งจะสามารถช่วยให้ทราบขนาด ตรวจสอบการเคลื่อนไหว และอวัยวะต่างๆว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ การนัดไปอัลตราซาวด์ นอกจากจะได้เห็นหน้าเจ้าตัวน้อยแล้ว ยังสามารถช่วยให้รับรู้ความสมบูรณ์ และพัฒนาการการเจริญเติบโตต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณแม่เตรียมตัวต้อนรับลูกน้อยได้ การเตรียมตัวก่อนอัลตราซาวด์ คุณแม่ควรไปถึงก่อนเวลาเพื่อเตรียมตัว และควรดื่มน้ำเพื่อเพิ่มปริมาณของเหลวในกระเพาะ เพื่อให้มองเห็นลูกได้ชัดเจนขึ้น สิ่งที่แพทย์ทำการตรวจสอบในการทำอัลตราซาวด์ การวัดขนาดอวัยวะต่างๆ เพื่อตรวจสอบการเจริญเติบโต: สมอง, หัวใจ, ไต, กระเพาะ, กระเพาะปัสสาวะ,กะบังลม, หน้า, หน้าอก, แขน, ขา, เท้า, มือ และ อวัยวะเพศ โดยขณะทำการอัลตราซาวด์ คุณแม่จะได้ยินเสียงหัวใจของลูกเต้น ซึ่งควรอยู่ระหว่าง 120-180 ครั้งต่อนาที ตรวจสอบกระดูกสันหลัง ว่ามีผิวหนังปกคลุมครบถ้วย หรือมีความผิดปกติหรือไม่ ระบุความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น ดาวน์ซินโดรม, เอ็ดเวิร์ดซินโดรม, โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด, โรคปากแหว่งเพดานโหว่ ระบุเพศของลูก: ความชัดเจนของเพศขึ้นอยู่กับท่าทางของลูกขณะทำการอัลตราซาวด์ หากลูกไม่อยู่ในท่าที่สามารถเห็นเพศได้ชัด อาจมีการระบุเพศคลาดเคลื่อนได้ ตรวจสอบความผิดปกติของสายสะดือ, รก และน้ำคร่ำ สรุปเรื่องการอัลตราซาวด์…

  • ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดสำหรับคุณแม่มือใหม่ทำความเข้าใจ พร้อมวิธีป้องกัน

    ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดสำหรับคุณแม่มือใหม่ทำความเข้าใจ พร้อมวิธีป้องกัน

    ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Baby Blues) เรื่องใกล้ตัวของคุณแม่มือใหม่ที่ต้องทำความเข้าใจ รู้จักอาการของภาวะเหล่านี้ และที่สำคัญที่สุดรู้จักสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า รวมไปถึงเข้าใจลักษณะอาการของคนที่มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดว่ามีอาการอย่างไรบ้าง ต่างจาก โรคซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum depression) อย่างไร พร้อมวิธีดูแลตัวเอง ลดความเสี่ยงของอาการเหล่านี้เพื่อคุณแม่มือใหม่ได้เตรียมรับมือค่ะ ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Baby Blue) คืออะไร? ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด(Baby Blue) คือ การเกิดสภาวะทางจิตใจที่ไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งคุณแม่ที่คลอดลูกน้อยทุกคนมีโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดกันเป็นปกติ ตามสถิติแล้วคุณแม่มีโอกาสมากถึง 50 – 85 % ที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าหลังจากคลอดใหม่ อาหารของ ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Baby Blue) อาการที่อาจจะพบได้ระหว่างภาวะซึมเศร้าหลังคลอด มีดังนี้ค่ะ ซึมเศร้า ร้องไห้หลังคลอด อารมณ์ แปรปรวน นอนไม่หลับ มีปัญหาในการตัดสินใจ และจัดการกับอารมณ์ รู้สึกว่าดูแลลูกไม่ได้ดี ถ้าคุณแม่เริ่มรู้สึกกลัว ควบคุมตัวเองไม่ได้ อยากทำร้ายตัวเองหรือลูก คุณแม่ต้องรีบหาความช่วยเหลือ ติดต่อกรมสุขภาพจิต 1323 นะคะ การเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเกิดจากอะไร? สาเหตุการเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอด มีปัจจัยหลักคือ…

  • ท่าโยคะคนท้องที่ง่าย ปลอดภัย ช่วยให้คลอดง่าย (ฟรี)

    ท่าโยคะคนท้องที่ง่าย ปลอดภัย ช่วยให้คลอดง่าย (ฟรี)

    การฝึกโยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มีประโยชน์อย่างมาก เป็นเตรียมความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจให้กับคุณแม่ก่อนคลอดได้ดี เป็นการคลายปวดเมื่อย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในท้อง แถมยังช่วยให้คลอดง่ายอีกด้วย มาดูท่าโยคะสำหรับคนท้องที่คุณแม่เล่นได้อย่างปลอดภัย รวมถึงการเตรียมตัว และข้อควรระวังกันค่ะ ข้อควรรู้และวิธีเตรียมตัวก่อนการฝึกโยคะระหว่างตั้งครรภ์ เลือกสถานที่เล่นโยคะที่เหมาะสม คุณแม่ควรเลือกสถานที่ ในการเล่นโยคะที่มีแสงสว่างเพียงพอ มีอากาศถ่ายเทที่ดี ที่จะช่วยให้คุณแม่มีความผ่อนคลาย และสามารถฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลือกแผ่นโยคะที่มีคุณภาพ คุณแม่ควรเลือกแผ่นโยคะที่มีความแข็งแรง เลือกใช้แผ่นโฟมที่มีคุณภาพดี สามารถทำความสะอาดและพับเก็บได้ง่าย เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายสำหรับคนท้อง คุณแม่ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าขณะเล่นโยคะที่มีความยืดหยุ่นสูง และมีการระบายอากาศที่ดี จะช่วยให้มีความคล่องตัวที่สุด เลือกท่าโยคะที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ การเล่นโยคะสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้น จำเป็นต้องเลือกท่าโยคะที่ปลอดภัยและควรหลีกเลี่ยงท่าที่อาจทำให้เกิดความอันตราย เช่น ท่าสุนัขก้มหน้า หรือการทำโยคะในห้องร้อนที่อาจเกิดความอันตรายกับลูกในท้องได้ ปรึกษาคุณหมอก่อนการเล่นโยคะ ก่อนคุณแม่จะเล่นโยคะ ก็จำเป็นที่จะต้องปรึกษาคุณหมอก่อนการเล่นโยคะทุกครั้ง อีกทั้งควรปรึกษาครูฝึกโยคะ เพื่อขอคำแนะนำที่จะสามารถเล่นโยคะได้อย่างปลอดภัยที่สุด ข้อดีของการเล่นโยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่มีสายใยเชื่อมโยงกับลูกในท้อง การเล่นโยคะ จะช่วยให้คุณแม่ได้ฝึกสมาธิ และเป็นการเพิ่มสายใยความผูกพัน กับลูกในท้องได้เป็นอย่างดีค่ะ ลูกในท้องหาจุดที่เหมาะสมในท้อง การเล่นโยคะของคุณแม่ จะช่วยให้ลูกตัวน้อยในครรภ์ สามารถหาจุดที่เหมาะสม ที่จะทำให้เจ้าตัวน้อยนอนอยู่ในท้องของคุณแม่ได้สบาย ร่างกายกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้รวดเร็ว การฝึกโยคะ จะช่วยให้ร่างกายของคุณแม่หลังคลอด มีการฟื้นฟู และสามารถกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้เหมือนช่วงก่อนคลอดได้อย่างรวดเร็ว สุขภาพของคุณแม่และลูกแข็งแรง การออกกำลังกายอย่างการฝึกโยคะนั้น จะช่วยให้ร่างกายของคุณแม่และลูกในท้องมีความแข็งแรง อีกทั้งยังมีงานวิจัยออกมาแล้วว่ายังช่วยลดโอกาสในการคลอดก่อนกำหนด คลอดง่าย นอกจากจะช่วยจัดท่าลูกแล้ว โยคะจะช่วยให้ร่างกายของคุณแม่ยืดหยุ่น ผ่อนคลาย ลดการเกร็งตึง…

  • คนท้องกินวิตามินซีได้ไหม? ทานวิตามินระหว่างตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย

    คนท้องกินวิตามินซีได้ไหม? ทานวิตามินระหว่างตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย

    แน่นอนว่าการตั้งครรภ์นั้นมาพร้อมกับความกังวลใจอยู่ไม่น้อย ทั้งการเตรียมตัวคลอด การดูแลลูกในอนาคต ดูแลสุขภาพ เตรียมน้ำนมเพื่อให้นมลูก และการเลือกอาหารการกินเพื่อบำรุงสุขภาพ คำถามที่คุณแม่หลายคนสงสัย ก็คือ คนท้องกินวิตามินซีได้ไหม?​ วันนี้เราจะมาให้คำตอบอย่างละเอียดกัน พร้อมด้วยปริมาณที่คุณแม่ทานวิตามินซีได้ อาหารที่มีวิตามินซี และข้อควรระวังค่ะ คนท้องกินวิตามินซีได้ไหม?​ คนท้องสามารถกินวิตามินซีได้ค่ะ แต่จะต้องระวังเรื่องปริมาณในการทานไม่ให้มากเกินไป ทาง WHO บอกเอาไว้ว่าไม่พบว่าการทาน Vitamin C ส่งผลกับ ทารกคลอดก่อนกำหนด,​ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนการเจ็บครรภ์, ภาวะความดันโลหิตสูงที่จำเพาะกับการตั้งครรภ์, ทารกเสียชีวิตตอนคลอด, ทารกเสียชีวิตในระยะแรกเกิด หรือ ทารกโตช้าในครรภ์ ดังนั้นทางองค์การอนามัยโลกเลยได้สรุปไว้ว่า ไม่ได้พบอันตรายแต่ก็ไม่ได้บอกว่าการทานวิตามินซีเสริมนั้นจำเป็นสำหรับคุณแม่ค่ะ วิตามินซีมีประโยชน์สำหรับคุณแม่และลูกอย่างไร? งานวิจัยจาก World Health Organization พบว่า การทานวิตามินซี และวิตามินอี เสริมในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยลดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดได้ค่ะ นอกจากนี้การทานวิตามินซี ยังจำเป็นมากๆ สำหรับคุณแม่และลูกในครรภ์ เพราะช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ สร้างกระดูกและฟันให้ลูก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ร่างกายของคุณแม่ดูดซับธาตุเหล็กได้ดีขึ้นค่ะ ทานวิตามินซีในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะปลอดภัยสำหรับคุณแม่และลูก? ปริมาณการทานวิตามินซีที่แนะนำสำหรับคุณแม่ จะแบ่งตามช่วงอายุดังนี้ค่ะ ปริมาณวิตามินที่ทานระหว่างตั้งครรภ์ คุณแม่อายุ 18 ปี…

  • ผมร่วงหลังคลอด: สาเหตุและวิธีแก้ สำหรับคุณแม่ทุกคน

    ผมร่วงหลังคลอด: สาเหตุและวิธีแก้ สำหรับคุณแม่ทุกคน

    ผมร่วงหลังคลอดเป็นอาการแสนหนักใจสำหรับคุณแม่หลายคน โดยเฉพาะสำหรับคุณแม่มือใหม่ แค่ความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ จากการคลอด ฮอร์โมน การให้นมลูก ปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่นหัวนมแตก หรือท่อนมอุดตันแล้ว อาการผมร่วงยังมาเพิ่มเติมสร้างความเครียดและกังวลใจให้กับคุณแม่อีก วันนี้เราจะมาพูดถึงปัญหาผมร่วงหลังคลอดและวิธีแก้ไข้ เพื่อให้คุณแม่ผ่านปัญหานี้ไปได้อย่างมั่นใจค่ะ ผมร่วงหลังคลอดเกิดจากอะไร? โดยปกติคนเราก็จะมีผมร่วงอยู่ทุกวันประมาณ 50-100 เส้นอยู่แล้ว แต่ร่างกายของคุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเมื่อเกิดการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ในขณะตั้งครรภ์คุณแม่ดูมีผมสุขภาพดี และไม่มีปัญหาผมร่วง แต่หลังคลอดแล้วฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลง ทำให้ผมเริ่มร่วงมากขึ้นถึงวันละ 400-500 เส้น พูดง่ายๆ ก็คล้ายกับว่าผมที่ปกติเคยร่วงเป็นประจำ ช่วงคลอดนี้ไม่ร่วงเลย และพอคลอดลูกเสร็จก็ใช้โควตาการร่วงของที่อั้นไว้ตลอดเก้าเดือนนั่นเองค่ะ ระยะฮอร์โมนตกนี้จะอยู่ไป 3-6 เดือนกว่าจะค่อยๆ ปรับระดับขึ้นมาเป็นปกติค่ะ หรือในบางเคสอาจจะมีอาการผมร่วงยาวไปเป็นปีได้ค่ะ อีกปัจจัยสำคัญก็คือเรื่องสารอาหาร ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่มักจะมีการบำรุงสารอาหารเต็มที่เพื่อลูกน้อย แต่หลังจากคลอดแล้วอาจจะลืมบำรุงสารอาหารบางตัวไป การเสริมวิตามินบี ธาตุเหล็ก และสังกะสีจะช่วยลดอาการผมร่วงได้ค่ะ อาการผมร่วงหลังคลอดเป็นปกติหรือไม่? อันตรายหรือเปล่า? แม้จะไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน แต่ผมร่วงหลังคลอดเป็นอาการปกติ ไม่เป็นอันตรายกับคุณแม่ และจะกลับมาเป็นปกติได้เองเมื่อร่างกายปรับตัวแล้วค่ะ วิธีแก้ผมร่วงหลังคลอด เราสามารถลดอาการผมร่วงหลังคลอดได้เอง โดยสามารถบรรเทาอาการ ลดความกังวล และเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณแม่ได้ค่ะ ใช้แชมพูที่ช่วยเพิ่มปริมาณเส้นผม ลดผมร่วง แชมพูบางชนิดจะมีสารที่ช่วยเพิ่ม Volume ให้กับผม…

  • อาหารคนท้อง: คุณแม่ตั้งครรภ์ห้ามกินอะไร อะไรที่มีประโยชน์ต่อลูก

    อาหารคนท้อง: คุณแม่ตั้งครรภ์ห้ามกินอะไร อะไรที่มีประโยชน์ต่อลูก

    ลูกรักเป็นดั่งดวงใจของคุณแม่ทุกคน ดังนั้นการเริ่มต้นดูแลเจ้าตัวน้อยตั้งแต่ในครรภ์ ก็เป็นอีกหนึ่งในความตั้งใจของคุณแม่ และอาหารก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่คุณแม่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการดูแลทั้งลูกในครรภ์และคุณแม่เอง วันนี้เราจะมาลองดูกันว่า อาหารของคนท้องมีอะไรบ้าง คุณแม่ตั้งครรภ์ควรทานอะไร คนท้องห้ามทานผลไม้อะไร ทานเผ็ดได้ไหม กินน้ำมะพร้าวเมื่อไหร่ดี แล้วมีประโยชน์หรือเปล่าค่ะ Super Food สุดยอดอาหารสำหรับคุณแม่ที่กำลังท้อง อาหาร Super Food คืออะไร? อาหาร Super Food คืออาหารที่มีคุณค่าทางอาหารที่สำคัญ ที่คุณแม่ควรทาน เพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกในท้อง ทั้งทางร่างกาย ระบบประสาท และพัฒนาการทางสติปัญญา หรือเรียกได้ว่าเป็นการบำรุงร่างกายของลูก ตั้งแต่อยู่ในท้อง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็น ราสเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินอี วิตามินบี ใยอาหาร โพแทสเซียม มีสารต้านอนุมูลอิสระ และกรดอะมิโน ช่วยให้ผิวพรรณของคุณแม่มีความเปล่งปลั่งค่ะ ควินัว ควินัว เป็นอีกหนึ่งอาหารที่คุณแม่สามารถทานแทนข้าวได้ ซึ่งควินัวอุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม มีไฟเบอร์สูง และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งสามารถช่วยบำรุงร่างกายและกระดูกของลูกในท้องได้ งาดำ งาดำ ถือเป็นอีกหนึ่งอาหาร ที่คุณแม่ท้องควรรับประทานเป็นอย่างยิ่งนะคะ เนื่องจากในงาดำมีไขมันดี ภายในน้ำมันของงาดำนั้น สามารถช่วยบำรุงกระดูก…

  • สิ่งที่ควรเลี่ยง เมื่อกำลังตั้งครรภ์

    สิ่งที่ควรเลี่ยง เมื่อกำลังตั้งครรภ์

    ในช่วงก่อนตั้งครรภ์กับหลังตั้งครรภ์นั้น หลายๆคนอาจจะคิดว่าการใช้ชีวิตคงจะไม่ต่างกันมาก แต่จริงๆแล้วเมื่อคุณเริ่มตั้งครรภ์ ความเสี่ยงในเรื่องต่างๆจะมีมากขึ้นกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง หรือการเลือกทานอาหาร คุณแม่ต้องพิถีพิถันมากขึ้นเป็นพิเศษ และมีสิ่งใดบ้างที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และลูกน้อย อาหารดิบ การทานอาหารดิบ ที่ไม่ผ่านการปรุงให้สุก เช่น ปลาดิบ หรือผ่านการปรุงแต่ไม่สุกดี อย่างสเต็กแบบRare หรือ Medium Rare มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค หรือแบคทีเรียบางชนิด ที่จะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยและมีผลต่อลูกในท้องได้ค่ะ แต่ถ้าหากคุณแม่ต้องการทานจริงๆ ก็ควรเลือกร้านที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และมีคุณภาพเท่านั้นนะคะ อาหารเสริมบางชนิด อาหารเสริมหรือวิตามินบางชนิด ถ้าลองสังเกตที่ฉลากข้างขวด จะมีการเขียนกำกับไว้ว่า “สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน” เนื่องจากอาจจะมีสารบางตัว ที่จะส่งผลเสียกับลูก และพัฒนาการของลูกในท้อง รวมถึงวิตามินบางตัว ที่ถ้าหากคุณแม่ทานเข้าไปในปริมาณมาก อาจส่งผลให้ลูกในท้องตาบอดได้ ฉะนั้น หากคุณแม่ต้องการทานอาหารเสริมหรือวิตามินใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุดค่ะ บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้น เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับคุณแม่อย่างเด็ดขาด เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะส่งผลร้ายโดยตรงต่อพัฒนาการของลูก ทั้งพัฒนาการในการเติบโตของร่างกาย พัฒนาการทางด้านสมอง หรือในขั้นที่รุนแรงที่สุด อาจส่งผลให้ลูกเสียชีวิตได้ อาหารรสจัด หากคุณแม่ชื่นชอบในการทานอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นรสใดก็ตาม อย่างเค็มจัด เปรี้ยวจัด หรือเผ็ดจัด ช่วงที่มีน้อง ควรลดความจัดจ้านของอาหารลง เนื่องจากอาหารรสจัดมีผลต่อระบบย่อยอาหาร อาจทำให้เกิดอาการแสบท้อง…

  • 9 วิตามิน ที่คุณแม่ต้องการ

    9 วิตามิน ที่คุณแม่ต้องการ

    คุณแม่ทราบกันไหมคะว่า วิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายของคุณแม่ มีอะไรบ้าง #MommyliciousJuice ได้นำ 9 วิตามิน ที่มีความจำเป็นต่อร่างกายของคุณแม่มาฝากกัน 1. วิตามิน E ช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท,ระบบกล้ามเนื้อ และระบบสืบพันธุ์ โดยสามารถหาทานได้จาก มัลเบอรี่,มะเขือเทศ , มะม่วง ,แก้วมังกร เป็นต้น 2. วิตามิน C วิตามินซีที่ได้จากผักหรือผลไม้ อย่าง ส้ม มะนาว มะเขือเทศ และขิง จะช่วยให้คุณแม่ได้รับสารที่ช่วยในการเพิ่มภูมิต้านทาน วิตามินซี ถือเป็นวิตามินที่จำเป็นสำหรับคุณแม่อย่างยิ่ง เนื่องจากหากขาดวิตามินซี จะทำให้เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือการคลอดก่อนกำหนดได้ 3. วิตามิน B6 วิตามิน B6 มักพบได้ในกล้วย,คะน้า,ปลาทูน่า,ผักชีฝรั่ง และไข่แดง มีสารกระตุ้นช่วยให้เกิดการเผาผลาญกรดอะมิโน 4. วิตามิน B1 หรือเรียกอีกอย่างว่า ไทอามีน ที่ช่วยในระบบย่อยอาหาร ช่วยลดอาการเหน็บชา การเป็นตะคริว ซึ่งคุณแม่ต้องการวิตามิน B1 มากที่สุดในช่วง 3…

SHOP