ความฝันของคุณแม่ทุกคนก็คือการให้ลูกน้อยของเราได้เติบโตอย่างแข็งแรง สุขภาพดี และมีความสุขใช่มั้ยล่ะคะ? ซึ่งประสบการณ์แรกที่สำคัญที่สุดของเจ้าตัวเล็กในโลกใบใหญ่กลมโตนี้ ก็คือสัมผัสจากแม่และน้ำนมแม่ที่จะช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตของสมาชิกใหม่ ให้เติบโตได้อย่างแข็งแรงและมั่นคง น้ำนมหยดแรกที่ลูกน้อยจะได้รับนั้น เราเรียกกันว่า Colostrum หรือ น้ำนมเหลือง เรียกได้อีกชื่อว่า หัวน้ำนมค่ะ เจ้าน้ำนมเหลืองนี้คืออะไร มีประโยชน์กับทารกอย่างไรบ้าง น้ำนมยังมีสีอื่นอีกหรือไม่ แล้วมีข้อควรระวังอะไรที่คุณแม่ควรรู้ไว้ วันนี้เรารวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับน้ำนมแม่เวอร์ชันอัปเดตล่าสุด เพื่อให้คุณแม่ทุกคนสามารถให้นมลูกได้อย่างสบายใจไร้กังวลไปด้วยกันค่ะ

Photo by Dominika Roseclay from Pexels
Photo by Kristina Paukshtite from Pexels
น้ำนมเหลือง (Colostrum) คืออะไร?
น้ำนมเหลือง (Colostrum) คือ น้ำนมที่ร่างกายผลิตออกมาในช่วง 72 ชั่วโมงแรกหลังคลอดค่ะ หรือบางครั้งร่างกายของคุณแม่ก็อาจจะมีการเริ่มผลิตน้ำนมเหลืองตั้งแต่ช่วงท้ายของการตั้งครรภ์เลย ระหว่างนี้ถ้าลองเค้นดูเราอาจจะเห็นน้ำสีเหลืองใสออกมาจากเต้านมตั้งแต่ก่อนคลอด โดยน้ำนมของคุณแม่จะอยู่ในระยะน้ำนมเหลืองนี้ประมาณ 4-7 วันหลังคลอดเท่านั้นค่ะ สำหรับคุณแม่มือใหม่ ถ้าเห็นว่าน้ำนมของเราไม่ขาวใสเหมือนนมวัว ก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ การที่น้ำนมมีสีเหลืองนั้น ก็เพราะว่ามีเบต้าแคโรทีนอยู่ ซึ่งคือสารตัวเดียวกับที่อยู่ในผักผลไม้สีเหลืองส้ม เช่น แครอท หรือฟักทองค่ะ แต่น้ำนมเหลืองที่เราเรียกกัน อาจจะไม่ได้มีสีเหลืองเสมอไปนะคะ ที่จริงอาจจะเป็นน้ำใสๆ หรือว่าออกสีส้มก็ได้น้ำนมแม่ในแต่ละระยะที่แตกต่างกัน
น้ำนมของคุณแม่แบ่งออกได้เป็น 3 ช่วง และจะค่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ หลังจากคลอดลูก จนหมดระยะให้นมค่ะ โดยแต่ละช่วงคือระยะที่ 1: น้ำนมเหลือง (Colostrum)
น้ำนมเหลืองหรือหัวน้ำนม จะถูกผลิตออกมาในระยะแรกสุด บางครั้งอาจจะเริ่มผลิตออกมาตั้งแต่ระหว่างคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ในระยะสุดท้ายเลยค่ะ โดยน้ำนมเหลืองจะมีสารอาหารที่จำเป็นต่างๆ อยู่มาก มีความข้นกว่าน้ำนมในระยะถัดๆ ไป และที่จริงแล้วน้ำนมเหลืองจะมีส่วนคล้ายกับเลือด มากกว่าน้ำนมแม่ในระยะอื่นด้วยซ้ำค่ะ เนื่องจากน้ำนมเหลืองมีเม็ดเลือดขาวเป็นส่วนประกอบ ที่ช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทารก น้ำนมในช่วงนี้จะออกมาค่อนข้างน้อย แค่ประมาณวันละ 2-4 ช้อนชาเท่านั้นค่ะระยะที่ 2: น้ำนมช่วงปรับเปลี่ยน (Transitional Milk)
น้ำนมในช่วงนี้เป็นช่วงที่ร่างกายของคุณแม่กำลังจะปรับจากหัวน้ำนมเป็นน้ำนมแม่ปกติค่ะ ลักษณะและสารอาหารในน้ำนมจะมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยสัดส่วนโปรตีนจะลดลง รวมไปถึงเอนไซม์และสารประกอบที่ช่วยด้านภูมิคุ้มกันต่างๆ จะลดลง เพราะว่าช่วงนี้ทารกจะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันได้เองบ้างแล้วค่ะ ส่วนประกอบของน้ำนมจะเน้นไปที่สารอาหารมากขึ้น และน้ำนมก็จะมีปริมาณมากขึ้นให้เหมาะสมกับเด็กที่เริ่มดื่มนมได้เยอะขึ้นอีกด้วย โดยช่วงปรับเปลี่ยนนี้จะเกิดขึ้นหลังระยะน้ำนมเหลือง และอยู่ไปจนถึงประมาณสองอาทิตย์หลังคลอดค่ะ และเนื่องจากมีการผลิตน้ำนมมากขึ้น ช่วงนี้คุณแม่อาจจะรู้สึกว่าเต้านมมีขนาดใหญ่และตึงมากขึ้นอีกด้วยค่ะระยะที่ 3: น้ำนมปกติ (Mature Milk)
น้ำนมในระยะนี้เป็นช่วงที่ร่างกายของคุณแม่ปรับตัวเรียบร้อยแล้ว น้ำนมจะใสมากขึ้น โดยเราเรียกกันว่าน้ำนมส่วนหน้า หรือ Foremilk หลายคนบอกว่าลักษณะจะเหมือนนมวัวไขมันต่ำค่ะ น้ำนมอาจจะมีสีเหลืองเล็กน้อย หรือกระทั่งมีสีฟ้าเหลือบได้ค่ะ แต่หลังจากให้นมไปสักพัก น้ำนมก็จะเข้มข้นมากขึ้น เรียกว่าน้ำนมส่วนหลังหรือ hindmilk น้ำนมในช่วงนี้จะเน้นไปที่สารอาหารที่จำเป็นต่อการเติบโตกว่า 200 ชนิด ทั้งโปรตีน ไขมัน คาโบไฮเดรต วิตามิน และเกลือแร่ต่างๆ ที่จำเป็นต่อการเติบโตของลูก หลังจากนี้เด็กจะดื่มนมแม่ในระยะนี้ต่อไปได้เรื่อยๆ จนมีอายุ 1-2 ปีตามคำแนะนำ ในช่วงนี้หน้าอกของคุณแม่จะมีขนาดเล็กลงและตึงน้อยลงกว่าช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่ก็จะยังใหญ่กว่าปกติเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าที่จะมีน้องค่ะสารอาหารในน้ำนมเหลืองของคุณแม่
เจ้าหัวน้ำนมนี้ อุดมไปด้วยสารอาหารที่เปรียบได้เหมือนวัคซีนแรกของเจ้าตัวน้อยเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนที่มีประโยชน์อย่าง secretory immunoglobulin A (SIgA) ที่ช่วยกำจัดไวรัสและแบคทีเรีย, lactoferrin, leukocytes, แม็กนีเซียม และ สารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต ในขณะเดียวกันก็มีน้ำตาลแลคโตสต่ำ เรียกได้ว่านี่คือหยดน้ำนมมหัศจรรย์ที่จะช่วยให้ลูกน้อยของเรามีพื้นฐานร่างกายที่แข็งแรงพร้อมจะเติบโตอย่างมั่นคงต่อไปในอนาคตค่ะ
ประโยชน์ของน้ำนมเหลือง
น้ำนมเหลืองมีประโยชน์เฉพาะตัว ที่แตกต่างจากน้ำนมในระยะอื่นๆ เนื่องจากเป็นน้ำนมที่ทารกจะได้ทานเป็นครั้งแรกหลังจากที่เจ้าหัวใจดวงน้อยเริ่มเต้นตึงตัง โดยประโยชน์ของน้ำนมเหลืองมีมากมายดังนี้ค่ะสร้างภูมิคุ้มกัน
2 ใน 3 ของเซลล์ที่อยู่ในน้ำนมเหลือง คือเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งช่วยสร้าง Anitobodies มาต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส โดยเน้นไปที่การป้องกันการปวดท้องและท้องเสียของทารก และยังมี immunoglobulin A (sIgA) ที่ช่วยเน้นไปที่การป้องกันการติดเชื้อในลำคอ ปอด และลำไส้ จะเห็นได้ว่า หัวน้ำนม Colostrum จะเน้นไปที่การช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ทารกแข็งแรง เติบโตเผชิญโลกได้ต่อไปค่ะปิดลำไส้ สร้างกำแพงป้องกันโรค
ทารกเกิดใหม่จะมีลำไส้ที่ยังไม่สมบูรณ์ ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย น้ำนมเหลืองของแม่จะเข้าสู่เลือดของลูกเพื่อไปปิดรูรั่วในลำไส้ สร้างกำแพงป้องกันโรค ช่วยลดอาการแพ้อาหาร ปัญหาลำไส้ และโรคที่เกี่ยวกับลำไส้ต่างๆ เมื่อเด็กโตขึ้นค่ะช่วยระบบขับถ่าย
เด็กแรกเกิดนั้นจะถ่ายสิ่งที่ได้ทานเข้าไปในระหว่างอยู่ในท้องออกมา เราเรียกสิ่งนี้ว่า Meconium หรือ ขี้เทา นั่นเองค่ะ โดยขี้เทาจะมีลักษณะเหนียวๆ เป็นสีเขียวหรือสีเทา น้ำนมเหลืองจะช่วยขับขี้เทาออกมา และหลังจากนั้นก็จะช่วยให้ทารกขับถ่ายเป็นปกติ ลดอาการท้องผูกที่มักจะเกิดขึ้นหากทารกดื่มนมผงแทนนมแม่ค่ะทารกเติบโตอย่างแข็งแรง
น้ำนมเหลืองเป็นแหล่งธรรมชาติแหล่งเดียวที่มี Growth Factor ทั้ง alpha และ beta ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายของทารกเติบโตอย่างแข็งแรง ลดความเครียด อีกทั้งยังช่วยซ่อมแซมร่างกายทารกหลังจากที่ต้องออกมาเผชิญโลกเป็นครั้งแรก นอกจากนี้น้ำนมเหลืองยังช่วยปรับอุณหภูมิ ระบบหายใจ และระบบของเหลวในร่างกายอีกด้วยค่ะสีของน้ำนมแม่
น้ำนมของคุณแม่อาจจะมีสีอื่นได้นอกจากสีขาว และ เหลือง โดยปัจจัยที่กระทบกับสีของน้ำนมนั้นเกิดขึ้นได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เลือดจากเต้าของคุณแม่ อาหารที่ทาน หรือว่ายาต่างๆ ที่คุณแม่ใช้ ลองมาดูกันว่าน้ำนมแต่ละสีหมายถึงอะไรค่ะน้ำนมสีเหลืองหรือส้ม
นอกจากหัวน้ำนม หรือ Colostrum แล้ว น้ำนมที่แช่เย็น มักจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือหากคุณแม่ทานอาหารที่มีสีส้มและเหลืองมากๆ นมก็มีสิทธิ์จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองส้มได้เช่นกันนะคะนมแม่สีฟ้า
น้ำนมแม่ในช่วง Mature Milk อาจจะมีสีฟ้าเหลือบได้ เป็นเรื่องปกติค่ะสีเขียว
หากคุณแม่ทานอาหารที่มีสีเขียวมากๆ เช่น ผักโขม หรือ สาหร่าย น้ำนมที่ออกมาอาจจะเป็นสีเขียวได้นะคะ รวมทั้งการทานอาหารเสริมบางตัว เช่น chlorella ก็อาจจะส่งผลให้น้ำนมมีสีเขียวได้เช่นกันค่ะน้ำนมสีชมพูและสีน้ำตาล
แน่นอนว่าอาหารที่มีสีเข้มๆ ก็จะเปลี่ยนสีของน้ำนมแม่ได้ เช่น บีทรูทอาจจะทำให้นมแม่เป็นสีชมพูได้ค่ะ แต่ว่าการที่น้ำนมมีสีชมพูและน้ำตาล อาจจะเป็นสัญญาณว่ามีเลือดปนออกมาในน้ำนม เช่น คุณแม่อาจจะหัวนมแตก มีความดันเลือดในเต้านมผิดปกติ หรืออาจจะมีการติดเชื้อได้ คุณแม่จะต้องสังเกตอย่างใกล้ชิด และอาจจะปรึกษาแพทย์ถ้าหากมีความสงสัยว่าจะสุขภาพของคุณแม่หรือน้ำนมอาจจะไม่ปกติค่ะสีดำในน้ำนม
น้ำนมสีดำอาจจะดูน่าตกใจ แต่ยาและอาหารเสริมบางตัวที่คุณแม่ทานได้อย่างปลอดภัย อาจจะทำให้เกิดน้ำนมสีดำได้ เช่น การทานยา minocycline อย่างไรก็ตาม อย่าลืมสังเกตและปรึกษาแพทย์จะดีที่สุดค่ะข้อควรระวังเกี่ยวกับน้ำนมเหลือง
คุณแม่อาจจะเริ่มเห็นน้ำนมเหลืองไหลออกมาตั้งแต่ช่วงที่ 12-16 อาทิตย์ของการตั้งครรภ์ อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ เป็นการผลิตของร่างกายปกติ คุณแม่บางคนก็จะมีการเก็บนมตรงนี้แช่เย็นเอาไว้เพื่อให้ลูกตอนเกิด แต่อย่าลืมปรึกษาแพทย์ถึงวิธีการสังเกตนมและวิธีการเก็บที่ปลอดภัย ก่อนที่จะให้ลูกดื่มนมที่เก็บเอาไว้ด้วยนะคะ 🙂
One response to “Colostrum (น้ำนมเหลือง) คือ? ระยะของน้ำนมแม่ สีน้ำนม คุณค่า และ ข้อควรระวัง”
[…] หรืออยู่ในช่วงให้นมลูกทั้งช่วงน้ำนมเหลือง และน้ำนมปกติ มีรสชาติให้เลือก […]