fbpx

เปิดตำราอาหาร 8 เพิ่มน้ำนมเพื่อลูกน้อย จากคุณแม่ตัวจริง

breastfeeding mom and baby

คุณแม่หลายๆ คนคงจะได้ยินคำแนะนำจากคุณแม่รุ่นเก๋าระดับมืออาชีพกันมาบ้าง ว่าจากตำราในสมัยโบราณเชื่อว่าสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อนเป็นอาหารเพิ่มน้ำนมให้กับคุณแม่ ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับคุณแม่แล้วอาหารการกินเป็นเรื่องที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ก็จะต้องมีอาหารบางอย่างที่ควรหลีกเลี่ยง และในบทความนี้ เราจะพาคุณแม่ทั้งหลายเข้าครัวเลือกวัตถุดิบเพื่อทำอาหารเพิ่มน้ำนม ให้น้ำนมมีคุณภาพและหลั่งดีมากขึ้น รวมไปถึงเคล็ดลับการบำรุงน้ำนมเพื่อส่งต่อสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกน้อย ซึ่งบอกเลยว่าแต่ละอย่างหาซื้อได้ง่ายและเชื่อว่าหลายบ้านคงจะมีติดครัวกันอยู่แล้ว

สาเหตุที่ทำให้คุณแม่น้ำนมน้อย

ก่อนที่จะส่องวัตถุดิบอาหารเพิ่มน้ำนม คุณแม่ๆ คงจะอยากรู้ว่าต้นสายปลายเหตุของการหลั่งน้ำนมที่ปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อยมีอะไรบ้าง เพื่อจะได้ปรับแก้และดูแลอย่างถูกจุดมากขึ้น ซึ่งสาเหตุมีได้ดังต่อไปนี้

  • ความเครียด
  • ใช้ยาหรืออาหารเสริมเกินจำเป็น
  • ความดันโลหิตสูง
  • สูบบุหรี่
  • เต้านมไม่ได้รับการกระตุ้น
  • เจ็บหัวนม (sore nipples)
  • เต้านมคัด
  • มีประวัติการผ่าตัดเต้านมมาก่อนหน้า
  • ทานอาหารที่มีคุณค่าทางสารอาหารน้อย หรือไม่เพียงพอ

เปิดตำราพาคุณแม่หาวัตถุดิบอาหารเพิ่มน้ำนม

1. ใบกะเพรา 

Basil Leaves

วัตถุดิบแรก พาคุณแม่มาเริ่มต้นกันที่ผักคู่ครัวที่นอกจากจะเป็นเมนูโปรดของใครหลายคนแล้วยังมีสรรพคุณที่ดีเยี่ยม เพราะความร้อนจากใบกะเพราที่มีฟอสฟอรัส และแคลเซียมสูง สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และเพิ่มน้ำนมของคุณแม่ได้  รวมไปถึงหากลูกน้อยได้รับสารอาหารนี้ไปในน้ำนมจะช่วยทำให้ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อในเด็กได้อีกด้วย 

เมนูแนะนำ: ผัดกะเพรา หรือต้มจืดใบกะเพราหมูสับ

2. ขิง

Ginger

วัตถุดิบถัดมาเชื่อว่าคงอยู่คู่ครัวคนไทยข้างๆ กันกับวัตถุดิบแรก เพราะมีสรรพคุณเจ๋งๆ มากมาย ขิงเป็นยาสามัญประจำบ้าน ที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการ อย่างเช่นการช่วยกระตุ้นให้การไหลเวียนเลือดได้ดี มีวิตามินเอ บี 1 บี 2 คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน และแคลเซียม ช่วยในการขับลม ย่อยพวกไขมัน ลดการบีบตัวของลำไส้ และที่สำคัญช่วยเพิ่มน้ำนมให้คุณแม่ได้อีกด้วย

เมนูแนะนำ: น้ำขิงร้อน โจ๊กไก่ใส่ขิง บัวลอยน้ำขิง

3. กุยช่าย หรือดอกไม้กวาด 

กุยช่ายเป็นผักที่มีกลิ่นชัดเจนจากจีน มีสรรพคุณช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม และแก้ท้องผูก อุดมไปด้วยวิตามินเอ และธาตุเหล็ก เมื่อระบบภายในดีอะไรก็ดี กุยช่ายจึงช่วยทั้งบำรุงและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด รวมไปถึงการเพิ่มน้ำนมของคุณแม่ได้ดีทีเดียว

 เมนูแนะนำ : ขนมกุยช่าย ผัดกุยช่ายกับเนื้อสัตว์ที่ชอบ

4. อินทผาลัม

อินทผาลัมเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย  ได้แก่  เบต้าแคโรทีน, วิตามิน A, วิตามิน B1, วิตามิน B2, วิตามิน B6, วิตามิน K, แคลเซียม, ซัลเฟอร์, เหล็ก, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, แมงกานิส, แมกนีเซียม และน้ำมันโวลาไทล์ มีไฟเบอร์สูงมาก ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น และแน่นอนว่าสามารถช่วยบำรุงน้ำนมคุณแม่ ทั้งยังมีสารอาหารที่ช่วยในเรื่องภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ลูกน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย

เมนูแนะนำ : อาหารทานเล่น วันละ 5-10 ผล

5. อะโวคาโด

Avocado

อะโวคาโดเป็นแหล่งพลังงานทางโภชนาการ ทำให้คุณแม่ทานแล้วรู้สึกอยู่ท้องได้ดี อะโวคาโดยังอุดมไปด้วยวิตามินบี วิตามินเค โฟเลต โพแทสเซียม วิตามินซี และวิตามินอีซึ่งช่วยบำรุงและเพิ่มสารอาหารในน้ำนมให้กับคุณแม่ได้

เมนูแนะนำ: ทานเป็นอาหารว่างปริมาณครั้งละไม่เกิน ครึ่งผล หรือไม่เกิน 1 ผลต่อวัน

6. ตำลึง

ตำลึงผักที่หาทานได้ง่ายข้างรั้วบ้าน ผักที่ช่วยบำรุงน้ำนมไปพร้อมกับเพิ่มน้ำนมให้กับคุณแม่ได้ดีเยี่ยมไม่เป็นสองรองใคร ด้วยวิตามินหลายชนิด ทั้งยังมีธาตุเหล็ก แคลเซียม และเส้นใยอาหารสูงอีกด้วย

เมนูแนะนำ: ต้มจืดตำลึง แกงเลียงตำลึง ตำลึงผัดไข่

 7. ใบแมงลัก

Hairy Basil

ต่อมาคือใบแมงลัก ที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินบี และวิตามินซี มาพร้อมกลิ่นหอมเฉพาะตัว ใบแมงลักช่วยให้คุณแม่มีน้ำนมไหลได้ดี เพิ่มน้ำนมให้ลูกน้อยได้ทานอย่างจุใจ และยังช่วยขับลม ขับเหงื่อได้อีกด้วย

เมนูแนะนำ: แกงเลียงใส่ใบแมงลัก  แกงป่าใส่ใบแมงลัก

8. หัวปลี

หัวปลี

ไฮไลต์สุดท้ายของตำราขอยกให้หัวปลีที่ถือเป็นสมุนไพรยอดที่นิยมสำหรับคุณแม่เตรียมคลอด ไปจนถึงคุณแม่ลูกอ่อน เพราะหัวปลีอุดมไปด้วยแคลเซียมสูง เต็มไปด้วยเส้นใยอาหาร โปรตีน ฟอสฟอรัส และวิตามินซี จึงสามารถช่วยกระตุ้นการหลั่งของน้ำนม ช่วยเพิ่มน้ำนมให้กับคุณแม่ได้

เมนูแนะนำ: แกงเลียงหัวปลี ทอดมันหัวปลี หัวปลีชุบแป้งทอด น้ำหัวปลี

เคล็ด (ไม่) ลับบำรุงน้ำนมให้ดีมีคุณภาพเพื่อลูกน้อย

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: น้ำเป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญที่สุด ในการสร้างนมแม่ให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อย
  • ทำจิตใจให้สงบ ไม่เครียดมากเกินไป: งานศึกษาเมื่อปี 2019 ระบุว่าเมื่อเครียดคุณแม่จะหลั่งฮอร์โมนความเครียด เช่น คอร์ติซอล จะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของกรดไขมันในน้ำนมแม่ ทำให้ทารกมีน้ำหนักตัวน้อยด้วย
  • รักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ: หากคุณแม่เจ็บไข้ได้ป่วยไม่ว่าจะเป็นหวัด ท้องเสีย ร่างกายคุณแม่จะสร้างภูมิต้านทานผ่านไปทางน้ำนมโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ยังมีวิธีเพิ่มน้ำนมให้กับคุณแม่ได้อีกหลายวิธี เช่น การนวดกระตุ้นน้ำนม ลองดูวิธีการเพิ่มน้ำนมเพิ่มเติมได้จากบทความของเราเลยนะคะ

สรุปเรื่องอาหารเพิ่มน้ำนมสำหรับคุณแม่

จะเห็นแล้วว่า อาหารที่ช่วยบำรุงและเพิ่มน้ำนมให้กับคุณแม่นั้นมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกะเพรา ขิง อะโวคาโด หรือสมุนไพรเพิ่มน้ำนมที่เราคุ้นเคยกันอย่างหัวปลี ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้แม้จะหาได้ง่าย แต่บางครั้งด้วยงานที่วุ่นวาย หรือการเตรียมคลอดต่างๆ ก็ทำคุณแม่ก็ไม่มีเวลาที่จะทำอาหาร หรือเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้ตลอดเวลา Mommylicious Juice จึงได้คิดค้นเครื่องดื่มบำรุงน้ำนม ที่ทานง่าย ไม่ต้องประกอบอาหาร ไม่ต้องใช้เวลา มีหลากหลายสูตรที่ผ่านการคิดคำนวณมาอย่างดี ให้คุณแม่ได้ดื่มเครื่องดื่มบำรุงน้ำนมที่รสชาติอร่อย มีประโยชน์ โดยไม่ต้องกลัวเบาหวาน จนได้เป็นน้ำหัวปลีไทยเจ้าแรก ที่ชนะรางวัลระดับนานาชาติจากสิงคโปร์

สั่งซื้อ Mommylicious Juice ได้แล้ววันนี้ ที่นี่เลยค่ะ

น้ำหัวปลีเพิ่มน้ำนม

น้ำนมน้อย ทำอย่างไรดี?

หากเลือกทานอาหารที่ครบถ้วนเหมาะสมแล้ว แต่อาการน้ำนมหลั่งน้อยยังคงเกิดขึ้น อาจมาจากการที่เต้านมไม่ได้รับการกระตุ้น การนวดกระตุ้นเต้านม หากทำให้ถูกวิธี จะช่วยให้ปริมาณน้ำนมไหลมากขึ้น

อาหารอะไรบ้างที่ควรเลี่ยงของคุณแม่ให้นมลูก?

ทุกอย่างที่คุณแม่ทานเข้าไปมักจะส่งผลถึงลูกที่ใช้น้ำนมของคุณแม่ในการเติบโต เพราะฉะนั้นอาหารที่ควรเลี่ยง คือ เหล่าเครื่องดื่มที่ไม่ดีสุขภาพ อย่างแอลกอฮอล์ คาเฟอีน และนมวัว

อาหารเพิ่มน้ำนมมีอะไรบ้าง?

อาหารเพิ่มน้ำนมง่ายๆ มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกะเพรา ขิง อะโวคาโด หรือที่เรารู้จักกันดีอย่างหัวปลี อ่านรายละเอียดพร้อมเคล็ดลับเพิ่มเติมได้ในบทความเลยค่ะ

Photo Credit:
Photo by Dave Clubb on Unsplash
Photo by Rob Pumphrey on Unsplash
Photo by Lawrence Aritao on Unsplash
Photo by Mona Mok on Unsplash
Photo by Thought Catalog on Unsplash
Photo by Marko Blažević on Unsplash
Photo by Georgia de Lotz on Unsplash

Comments are closed.