Your cart is currently empty!
Tag: mom
น้ำนมน้อยทำยังไงดี? พร้อมเทคนิคเพิ่มน้ำนมคุณแม่
คงจะมีคุณแม่จำนวนไม่น้อยเลยใช่มั้ยคะ ที่กำลังประสบปัญหา น้ำนมน้อย ไม่เพียงพอให้ลูกรักดื่ม จนบางครั้งกลายเป็นปัญหาหนักอกหนักใจสำหรับคุณแม่หลาย ๆ ท่าน เพราะกังวลว่าลูกน้อยจะรับสารอาหารสำคัญไม่เพียงพอ ซึ่งตามหลักทางโภชนาการแล้ว น้ำนมแม่ถือว่ามีสารอาหารสำคัญมากที่สุด เนื่องจากมีวิตามิน แร่ธาตุสำคัญ สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กแรกเกิดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีแบคทีเรียที่ดีต่อระบบทางเดินอาหารของเด็กอีกด้วย วันนี้เราเลยอยากจะชวนคุณแม่ทุกท่านมาไขข้อข้องใจ ว่าปัญหาน้ำนมน้อยนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วเราจะมีเทคนิคเพิ่มน้ำนมคุณแม่อย่างไรให้ลูกรักดื่ม ถ้าพร้อมแล้วลองไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ น้ำนมแม่เกิดขึ้นได้อย่างไร ? กระบวนการการผลิตน้ำนมนั้น จะเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 2 โดยร่างกายของคุณแม่จะหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า โปรแลคติน ไปกระตุ้นสมองส่วนหน้า ทำให้เกิดกระบวนการผลิตน้ำนม แต่ยังไม่หลั่งออกมาเพราะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สร้างจากเด็กทารกคอยยับยั้งไม่ให้เกิดการหลั่งอยู่ หลังจากที่คุณแม่คลอดเด็กทารกแล้ว ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เคยหลั่งเพื่อสร้างเด็กทารกก็จะหลั่งน้อยลงจนหยุดลงในที่สุด ส่งผลให้กลไกการยับยั้งน้ำนมหายไป เมื่อลูกน้อยได้ดื่มก็จะยิ่งเกิดการกระตุ้นฮอร์โมนโปรแลคตินให้หลังมากขึ้น ซึ่งถ้ายิ่งหลั่งมาก ก็จะเกิดการผลิตน้ำนมเพิ่มขึ้นมากเท่านั้นนั่นเอง สารอาหาร และ ประโยชน์ของน้ำนมแม่ ในน้ำนมแม่มีสารอาหารจำเป็นที่ครบถ้วนสำหรับลูกน้อยมาก โดยสามารถแบ่งเป็น 3 ระยะได้ดังนี้ ระยะที่ 1: “น้ำนมแรก” หรือ “น้ำนมเหลือง (colostrum)” “น้ำนมแรก” หรือ “น้ำนมเหลือง (colostrum)” จะผลิตออกมาในช่วง 1 –…
ท่าโยคะคนท้องที่ง่าย ปลอดภัย ช่วยให้คลอดง่าย (ฟรี)
การฝึกโยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มีประโยชน์อย่างมาก เป็นเตรียมความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจให้กับคุณแม่ก่อนคลอดได้ดี เป็นการคลายปวดเมื่อย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในท้อง แถมยังช่วยให้คลอดง่ายอีกด้วย มาดูท่าโยคะสำหรับคนท้องที่คุณแม่เล่นได้อย่างปลอดภัย รวมถึงการเตรียมตัว และข้อควรระวังกันค่ะ ข้อควรรู้และวิธีเตรียมตัวก่อนการฝึกโยคะระหว่างตั้งครรภ์ เลือกสถานที่เล่นโยคะที่เหมาะสม คุณแม่ควรเลือกสถานที่ ในการเล่นโยคะที่มีแสงสว่างเพียงพอ มีอากาศถ่ายเทที่ดี ที่จะช่วยให้คุณแม่มีความผ่อนคลาย และสามารถฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลือกแผ่นโยคะที่มีคุณภาพ คุณแม่ควรเลือกแผ่นโยคะที่มีความแข็งแรง เลือกใช้แผ่นโฟมที่มีคุณภาพดี สามารถทำความสะอาดและพับเก็บได้ง่าย เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายสำหรับคนท้อง คุณแม่ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าขณะเล่นโยคะที่มีความยืดหยุ่นสูง และมีการระบายอากาศที่ดี จะช่วยให้มีความคล่องตัวที่สุด เลือกท่าโยคะที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ การเล่นโยคะสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้น จำเป็นต้องเลือกท่าโยคะที่ปลอดภัยและควรหลีกเลี่ยงท่าที่อาจทำให้เกิดความอันตราย เช่น ท่าสุนัขก้มหน้า หรือการทำโยคะในห้องร้อนที่อาจเกิดความอันตรายกับลูกในท้องได้ ปรึกษาคุณหมอก่อนการเล่นโยคะ ก่อนคุณแม่จะเล่นโยคะ ก็จำเป็นที่จะต้องปรึกษาคุณหมอก่อนการเล่นโยคะทุกครั้ง อีกทั้งควรปรึกษาครูฝึกโยคะ เพื่อขอคำแนะนำที่จะสามารถเล่นโยคะได้อย่างปลอดภัยที่สุด ข้อดีของการเล่นโยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่มีสายใยเชื่อมโยงกับลูกในท้อง การเล่นโยคะ จะช่วยให้คุณแม่ได้ฝึกสมาธิ และเป็นการเพิ่มสายใยความผูกพัน กับลูกในท้องได้เป็นอย่างดีค่ะ ลูกในท้องหาจุดที่เหมาะสมในท้อง การเล่นโยคะของคุณแม่ จะช่วยให้ลูกตัวน้อยในครรภ์ สามารถหาจุดที่เหมาะสม ที่จะทำให้เจ้าตัวน้อยนอนอยู่ในท้องของคุณแม่ได้สบาย ร่างกายกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้รวดเร็ว การฝึกโยคะ จะช่วยให้ร่างกายของคุณแม่หลังคลอด มีการฟื้นฟู และสามารถกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้เหมือนช่วงก่อนคลอดได้อย่างรวดเร็ว สุขภาพของคุณแม่และลูกแข็งแรง การออกกำลังกายอย่างการฝึกโยคะนั้น จะช่วยให้ร่างกายของคุณแม่และลูกในท้องมีความแข็งแรง อีกทั้งยังมีงานวิจัยออกมาแล้วว่ายังช่วยลดโอกาสในการคลอดก่อนกำหนด คลอดง่าย นอกจากจะช่วยจัดท่าลูกแล้ว โยคะจะช่วยให้ร่างกายของคุณแม่ยืดหยุ่น ผ่อนคลาย ลดการเกร็งตึง…
หัวนมแตกทำยังไง? ดูแลหัวนมแตกด้วยเคล็ดลับจากคุณแม่ตัวจริง
สำหรับคุณแม่มือใหม่ทุกคนการให้นมแม่กับลูกเปรียบเหมือนของขวัญล้ำค่า ที่จะช่วยให้เจ้าตัวน้อยเติบโตได้อย่างแข็งแร็งและมีความสุข แต่บางครั้งการให้นมแม่ก็มาพร้อมกับความเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นอาการเต้านมอักเสบ โดนลูกกัด หรืออาการหัวนมแตก Mommylicious Juice มีวิธีดูแลตัวเองเมื่อประสบปัญหาหัวนมแตกมาแนะนำค่ะ อาหารหัวนมแตกเป็นยังไง? คุณแม่จะรู้สึกเจ็บที่หัวนม หัวนมจะแข็ง แตก และอาจจะมีอาการเลือดออกร่วมด้วย มักจะเกิดในช่วงสัปดาห์แรกของการให้นมลูก หัวนมแตกเกิดจากอะไร? อาการหัวนมแตกของคุณแม่มีหลายสาเหตุดังนี้ 1.ลูกมีพังผืดบริเวณใต้ลิ้น หากพบว่าลูกมีพังผืดขึ้นที่บริเวณใต้ลิ้น ก็อาจส่งผลให้เมื่อลูกดื่มนมของคุณแม่แล้ว จะทำให้หัวนมของคุณแม่เกิดการแตกได้ค่ะ 2.ให้นมลูกผิดท่า การให้นมลูกแบบผิดท่า ก็สามารถทำให้หัวนมของคุณแม่แตกได้เช่นกัน เช่นการให้ลูกนอนตะแคงแบบไม่หันตัวไปในทางเดียวกันทั้งตัว หรือแม้แต่การจับลูกนอนหงายขณะกินนมแบบผิดวิธี 3.การปล่อยให้นมคัดตึง การที่คุณแม่ปล่อยให้เต้านมมีความคัดตึง โดยไม่มีการนวด หรือการปล่อยให้บริเวณลานนมมีความเเข็ง ก็จะทำให้หัวนมแตกได้เช่นเดียวกัน 4.ลูกดูดนมผิดวิธี การให้ลูกดูดนมโดยให้อมเพียงบริเวณหัวนม ก็อาจทำให้ลูกเกิดการเคี้ยวหัวนมด้วยเหงือก จึงทำให้คุณแม่เกิดอาการเจ็บ เกิดภาวะหัวนมแตก และอาจส่งผลให้เลือดออกได้ 5.การดึงเต้านมออกจากปากลูก อีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดหัวนมแตกก็คือ การที่คุณแม่ดึงเต้านมออกจากปากลูก หลังจากที่ลูกทานนมเสร็จแล้วแบบผิดวิธี จึงทำให้เกิดการดึงรั้งไปที่หัวนมได้ค่ะ 6.ผิวบริเวณหัวนมแห้ง การที่คุณแม่ทำความสะอาดผิวบริเวณหัวนม ด้วยการใช้สบู่ที่ทำให้ผิวแห้ง หรือการใช้แอลกอฮอล์ในการทำความสะอาดหัวนม ก็จะส่งผลให้ผิวบริเวณหัวนมมีความแห้ง และเกิดอาการหัวนมแตกได้ค่ะ วิธีรับมืออาการหัวนมแตก ลองมาดูวิธีการรักษาอาการหัวนมแตก เพื่อให้คุณแม่สามารถให้น้ำนมแม่กับลูกน้อยได้อย่างสบายใจในทุกช่วงระยะของน้ำนมกันค่ะ 1.ดึงหัวนมออกจากปากลูกให้ถูกวิธี วิธีนี้สามารถทำได้โดยการ ทำการคลายการดูดของลูกออกก่อน แล้วจึงค่อยดึงหัวนมออกจากปากของลูกค่ะ 2.งดการใช้สบู่และแอลกอฮอล์ การใช้สบู่และแอลกอฮอล์ในการทำความสะอาดหัวนม…
สิ่งที่ควรเลี่ยง เมื่อกำลังตั้งครรภ์
ในช่วงก่อนตั้งครรภ์กับหลังตั้งครรภ์นั้น หลายๆคนอาจจะคิดว่าการใช้ชีวิตคงจะไม่ต่างกันมาก แต่จริงๆแล้วเมื่อคุณเริ่มตั้งครรภ์ ความเสี่ยงในเรื่องต่างๆจะมีมากขึ้นกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง หรือการเลือกทานอาหาร คุณแม่ต้องพิถีพิถันมากขึ้นเป็นพิเศษ และมีสิ่งใดบ้างที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และลูกน้อย อาหารดิบ การทานอาหารดิบ ที่ไม่ผ่านการปรุงให้สุก เช่น ปลาดิบ หรือผ่านการปรุงแต่ไม่สุกดี อย่างสเต็กแบบRare หรือ Medium Rare มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค หรือแบคทีเรียบางชนิด ที่จะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยและมีผลต่อลูกในท้องได้ค่ะ แต่ถ้าหากคุณแม่ต้องการทานจริงๆ ก็ควรเลือกร้านที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และมีคุณภาพเท่านั้นนะคะ อาหารเสริมบางชนิด อาหารเสริมหรือวิตามินบางชนิด ถ้าลองสังเกตที่ฉลากข้างขวด จะมีการเขียนกำกับไว้ว่า “สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน” เนื่องจากอาจจะมีสารบางตัว ที่จะส่งผลเสียกับลูก และพัฒนาการของลูกในท้อง รวมถึงวิตามินบางตัว ที่ถ้าหากคุณแม่ทานเข้าไปในปริมาณมาก อาจส่งผลให้ลูกในท้องตาบอดได้ ฉะนั้น หากคุณแม่ต้องการทานอาหารเสริมหรือวิตามินใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุดค่ะ บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้น เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับคุณแม่อย่างเด็ดขาด เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะส่งผลร้ายโดยตรงต่อพัฒนาการของลูก ทั้งพัฒนาการในการเติบโตของร่างกาย พัฒนาการทางด้านสมอง หรือในขั้นที่รุนแรงที่สุด อาจส่งผลให้ลูกเสียชีวิตได้ อาหารรสจัด หากคุณแม่ชื่นชอบในการทานอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นรสใดก็ตาม อย่างเค็มจัด เปรี้ยวจัด หรือเผ็ดจัด ช่วงที่มีน้อง ควรลดความจัดจ้านของอาหารลง เนื่องจากอาหารรสจัดมีผลต่อระบบย่อยอาหาร อาจทำให้เกิดอาการแสบท้อง…
กฎหมายแรงงานกับสิ่งที่คุณแม่ควรรู้
คุณแม่ที่กำลังตั้งท้อง หรือคนที่กำลังวางแผนจะมีลูก ทราบกันหรือไม่ว่า กฎหมายแรงงานของประเทศไทยนั้นมีกฎหมายคุ้มครองแรงงานหญิงที่กำลังตั้งครรภ์อย่างไรบ้าง #MommyliciousJuice ได้รวบรวมนำมาให้ได้อ่านกัน เพื่อให้ได้ทราบถึงสิทธิประโยชน์ที่พึงจะมีมาให้ทราบกัน คนท้องขอเปลี่ยนงานได้คุณแม่ที่กำลังตั้งท้องที่คิดว่าสายงานของตัวเองมีงานหนักเกินไป หรือรู้สึกว่าอยากเปลี่ยนงานแบบชั่วคราวในระหว่างที่ท้อง สามารถขอใบรับรองแพทย์เพื่อยืนยันว่า คุณแม่ไม่สามารถทำงานในหน้าที่เดิมต่อได้ เพื่อนำไปยื่นให้กับนายจ้างเพื่อขอเปลี่ยนงานชั่วคราวได้ โดยนายจ้างต้องเปลี่ยนงานที่เหมาะสมให้ หากไม่ปฏิบัติตาม จะมีโทษจำคุก หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ห้ามให้คนท้องทำงานในช่วงเวลา 22.00 น. ถึง 06.00 น.เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่คนท้องต้องได้รับการพักผ่อน โดยรวมถึงการทำงานล่วงเวลาและการทำงานในวันหยุด โดยถ้าหากหญิงตั้งครรภ์เคยทำงานในกะกลางคืน นายจ้างต้องเปลี่ยนช่วงเวลาในการทำงานเป็นกะกลางวันให้แทน ฉะนั้นคุณแม่ที่ทำงานกะกลางคืน สามารถยื่นคำขอเปลี่ยนกะทำงานกับนายจ้างได้เลยนะคะ คนท้องมีสิทธิลาเพื่อการคลอดบุตร คุณแม่ที่กำลังตั้งท้องสามารถลางาน เพื่อตรวจครรภ์และคลอดบุตรได้ ไม่เกิน 90 วันต่อครั้ง โดยนับรวมวันหยุดต่างๆเข้าไปด้วย และนายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างเต็มเวลาเป็นเวลา 45 วัน โดยอีก 45 วันที่เหลือ คุณแม่สามารถขอสิทธิประโยชน์ทดแทนได้จากกองทุนประกันสังคมค่ะ ห้ามเลิกจ้างหญิงตั้งท้องหากคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องโดนบริษัทเลิกจ้างโดยไม่ได้กระทำความผิดใดๆ นายจ้างจะมีความผิดทางอาญา ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ไม่นับรวมการเลิกจ้างด้วยเหตุผลอื่น…
9 วิตามิน ที่คุณแม่ต้องการ
คุณแม่ทราบกันไหมคะว่า วิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายของคุณแม่ มีอะไรบ้าง #MommyliciousJuice ได้นำ 9 วิตามิน ที่มีความจำเป็นต่อร่างกายของคุณแม่มาฝากกัน 1. วิตามิน E ช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท,ระบบกล้ามเนื้อ และระบบสืบพันธุ์ โดยสามารถหาทานได้จาก มัลเบอรี่,มะเขือเทศ , มะม่วง ,แก้วมังกร เป็นต้น 2. วิตามิน C วิตามินซีที่ได้จากผักหรือผลไม้ อย่าง ส้ม มะนาว มะเขือเทศ และขิง จะช่วยให้คุณแม่ได้รับสารที่ช่วยในการเพิ่มภูมิต้านทาน วิตามินซี ถือเป็นวิตามินที่จำเป็นสำหรับคุณแม่อย่างยิ่ง เนื่องจากหากขาดวิตามินซี จะทำให้เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือการคลอดก่อนกำหนดได้ 3. วิตามิน B6 วิตามิน B6 มักพบได้ในกล้วย,คะน้า,ปลาทูน่า,ผักชีฝรั่ง และไข่แดง มีสารกระตุ้นช่วยให้เกิดการเผาผลาญกรดอะมิโน 4. วิตามิน B1 หรือเรียกอีกอย่างว่า ไทอามีน ที่ช่วยในระบบย่อยอาหาร ช่วยลดอาการเหน็บชา การเป็นตะคริว ซึ่งคุณแม่ต้องการวิตามิน B1 มากที่สุดในช่วง 3…
รับมืออาการป่วยตอนท้อง
เจอทั้งแดด ทั้งฝน และ PM 2.5 แม่เพลีย!!! เมื่อคุณแม่เกิดอาการเจ็บป่วยทางร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัด อาการท้องเสีย หรือโรคสามัญอื่นๆ สิ่งที่จะสามารถทำได้ในทันทีคือ ทานยาสามัญประจำบ้าน เพื่อบรรเทาอาการป่วย โดยไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ แต่ในกรณีของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้น หากเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นมา ควรรับมืออย่างไร? 1.สังเกตอาการ เมื่อคุณแม่เริ่มรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ ต้องเริ่มทำเช็คลิสต์สังเกตอาการผิดปกติของตัวเองเช่น หายใจลำบาก , รู้สึกตัวร้อน,มีน้ำมูก การทำเช็คลิสต์นี้เป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อนำไปให้แพทย์วินิจฉัยได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น 2.อย่าทานยาเองหากไม่ใช่ยาที่คุณหมอสั่ง แนะนำว่าห้ามทานยาเองอย่างเด็ดขาด เพราะยาที่เราทานนั้นอาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ 3.รีบพบแพทย์เมื่อเกิดอาการเจ็บป่วย คุณแม่ควรรีบเข้าพบแพทย์ให้เร็วที่สุด โดยอย่าลืมนำเช็คลิสต์จากในข้อแรกไปให้คุณหมอ เพื่อประกอบการวินิจฉัยโรคด้วย.#คุณแม่ #มัมมี้ลิเชียสจูซ #น้ำหัวปล #กระตุ้นน้ำนม #บำรุงนมแม่ #อาหารเพิ่มน้ำนม#น้ำขิงออแกนิค #น้ำขิง #น้ำหัวปลีออแกนิค #น้ำหัวปลี #น้ำปลีกล้วย #เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ #เครื่องดื่มบำรุงน้ำนม #อาหารคลีน #ลดน้ำหนัก #organic #gingerjuice#bananaflowerjuice #healthydrink #mommymusthave #mommyknowsbest #ป่วยตอนท้อง #ไม่สบายตอนท้อง
วิธีฝึกให้ลูกเป็นเด็กทานง่าย
ฝึกลูกเป็นเด็กทานง่าย . เด็กๆคนไหนมีพฤติกรรมทานยากกันบ้างคะ? คงจะสร้างความน่าเป็นห่วง ให้กับคุณพ่อคุณแม่ไม่น้อย เพราะถ้าเด็กๆทานยาก อาจทำให้เด็กๆเลือกทาน แต่สิ่งที่ตัวเองชอบ และได้รับสารอาหารเข้าสู่ร่างกายได้ไม่ครบถ้วน หรืออาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคขาดสารอาหารได้ คุณพ่อคุณแม่ที่ไม่อยากให้ลูกๆ ทานยากควรฝึกลูกอย่างไร? วันนี้ #MommyliciousJuice ได้นำวิธีฝึกลูกให้เป็น เด็กทานง่ายมาฝากกันค่ะ . 1.ฝึกให้ทานอาหาร Finger Food อาหารแบบ Finger Food จะทำให้เด็กๆจับทานได้ถนัดมือ ซึ่งการฝึกนี้ควรฝึกเด็กๆตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไปนะคะ อาหารที่เตรียมไว้ ควรมีไว้ให้หลากหลาย ทั้งเนื้อสัตว์ ข้าว ขนมปัง ผัก และผลไม้ เพื่อให้เด็กๆได้ลองหยิบทานด้วยตัวเองค่ะ ซึงเด็กๆที่หยิบอาหารทานเองจะทานง่ายกว่าเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ป้อนนะคะ . 2.เพิ่มสีสันให้การทาน ไม่ว่าจะเป็นสีสันและหน้าตาของอาหารที่ควรทำให้มีหน้าตาเหมือนการ์ตูน มีความน่ารัก และน่าทานมากขึ้นแล้ว อุปกรณ์ในการทาน อย่างจาน ช้อน และเเก้วน้ำก็ควรมีสีสันที่สวยงาม เพื่อให้เด็กๆอยากทานนั่นเองค่ะ . 3.งดขนมก่อนมื้ออาหาร การให้ลูกๆทานขนมก่อนมื้ออาหารจะทำให้เด็กๆเกิดความอิ่ม และไม่อยากทานอาหาร รวมถึงขนมหวานเมื่อทานเข้าไปมากๆอาจทำให้เด็กๆเกิดโรคอ้วน และมีปัญหาสุขภาพอื่นๆตามมาค่ะ จึงควรทานแต่น้อย และเน้นอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการจะดีกว่า .…