Your cart is currently empty!
Mindblown: a blog about philosophy.
มัมมี้ลิเชียสจูซ นวัตกรรมเครื่องดื่มเพื่อคุณแม่ จากประเทศไทย คว้ารางวัลนานาชาติ International Innovation Awards 2019 (IIA2019)
Enterprise Asia ได้ประกาศผลรางวัล International Innovation Awards 2019 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2019 ณ ประเทศสิงคโปร์ ถือเป็นงานประกาศรางวัลเกียรติคุณแก่บริษัทที่มีผลิตภัณฑ์และบริการที่สมควรได้รับ การยกย่องให้เป็นที่สุดในด้านนวัตกรรม ในหมวดหมู่ที่แตกต่างกัน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ การบริการ องค์กร และ วัฒนธรรม มีการคัดเลือกผลิตภัณฑ์และการบริการจากหลากหลายประเทศทั่วโลก โดยมีเป้าหมายในการ เผยแพร่และกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมที่ยิงใหญ่ในระดับสากล โดยปีนี้ หนึ่งในผลงานผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ได้แก่ เครื่องดื่มน้ำหัวปลีผสมขิง มะเขือเปราะ และใบกะเพรา หรือ Super Huaplee Plus แบรนด์ มัมมี้ลิเชียสจูซ (Mommylicious Juice) ซึ่งมีบริษัท มัมมี้ ลิเชียส ทเวนตี โฟร์จํากัด เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ เครื่องดื่มน้ำหัวปลี Super Huaplee Plus เป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นจากแนวคิดในการนําสูตรอาหารลับเฉพาะในการบํารุงน้ำนมแม่ ที่มาจากความรู้ตําราโบราณไทยดั้งเดิมมาพัฒนาให้เป็นเครื่องดื่มทันสมัย โดยมีการใช้วัตถุดิบไทยที่มีประโยชน์ มีคุณสมบัติในการบํารุงและกระตุ้นน้ำนม แปรรูปภายใต้เทคโนโลยีและกระบวนการมาตรฐานสากล จนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่…
Colostrum (น้ำนมเหลือง) คือ? ระยะของน้ำนมแม่ สีน้ำนม คุณค่า และ ข้อควรระวัง
ความฝันของคุณแม่ทุกคนก็คือการให้ลูกน้อยของเราได้เติบโตอย่างแข็งแรง สุขภาพดี และมีความสุขใช่มั้ยล่ะคะ? ซึ่งประสบการณ์แรกที่สำคัญที่สุดของเจ้าตัวเล็กในโลกใบใหญ่กลมโตนี้ ก็คือสัมผัสจากแม่และน้ำนมแม่ที่จะช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตของสมาชิกใหม่ ให้เติบโตได้อย่างแข็งแรงและมั่นคง น้ำนมหยดแรกที่ลูกน้อยจะได้รับนั้น เราเรียกกันว่า Colostrum หรือ น้ำนมเหลือง เรียกได้อีกชื่อว่า หัวน้ำนมค่ะ เจ้าน้ำนมเหลืองนี้คืออะไร มีประโยชน์กับทารกอย่างไรบ้าง น้ำนมยังมีสีอื่นอีกหรือไม่ แล้วมีข้อควรระวังอะไรที่คุณแม่ควรรู้ไว้ วันนี้เรารวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับน้ำนมแม่เวอร์ชันอัปเดตล่าสุด เพื่อให้คุณแม่ทุกคนสามารถให้นมลูกได้อย่างสบายใจไร้กังวลไปด้วยกันค่ะ น้ำนมเหลือง (Colostrum) คืออะไร? น้ำนมเหลือง (Colostrum) คือ น้ำนมที่ร่างกายผลิตออกมาในช่วง 72 ชั่วโมงแรกหลังคลอดค่ะ หรือบางครั้งร่างกายของคุณแม่ก็อาจจะมีการเริ่มผลิตน้ำนมเหลืองตั้งแต่ช่วงท้ายของการตั้งครรภ์เลย ระหว่างนี้ถ้าลองเค้นดูเราอาจจะเห็นน้ำสีเหลืองใสออกมาจากเต้านมตั้งแต่ก่อนคลอด โดยน้ำนมของคุณแม่จะอยู่ในระยะน้ำนมเหลืองนี้ประมาณ 4-7 วันหลังคลอดเท่านั้นค่ะ สำหรับคุณแม่มือใหม่ ถ้าเห็นว่าน้ำนมของเราไม่ขาวใสเหมือนนมวัว ก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ การที่น้ำนมมีสีเหลืองนั้น ก็เพราะว่ามีเบต้าแคโรทีนอยู่ ซึ่งคือสารตัวเดียวกับที่อยู่ในผักผลไม้สีเหลืองส้ม เช่น แครอท หรือฟักทองค่ะ แต่น้ำนมเหลืองที่เราเรียกกัน อาจจะไม่ได้มีสีเหลืองเสมอไปนะคะ ที่จริงอาจจะเป็นน้ำใสๆ หรือว่าออกสีส้มก็ได้ น้ำนมแม่ในแต่ละระยะที่แตกต่างกัน น้ำนมของคุณแม่แบ่งออกได้เป็น 3 ช่วง และจะค่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ หลังจากคลอดลูก จนหมดระยะให้นมค่ะ โดยแต่ละช่วงคือ…
บอกรักลูกอย่างไรได้บ้าง
วิธีการบอกรักลูกไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดเพียงอย่างเดียว การกระทำที่ใส่ใจในตัวลูก ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีบอกรักลูกเช่นเดียวกันค่ะ #MommyliciousJuice จึงนำวิธีแสดงออกถึงความรักมาให้คุณพ่อคุณแม่ได้นำไปใช้มาฝากค่ะ การกอดการกอดลูก เป็นวิธีบอกรักที่เบสิคและง่ายที่สุดเลยนะคะ โดยสามารถทำให้สายใยในครอบครัวแน่นแฟ้นขึ้นด้วยค่ะ ให้เวลากับลูกคุณพ่อคุณแม่หลายๆคนอาจไม่มีเวลาว่าง เนื่องจากการทำงาน แต่ก็ควรแบ่งเวลาเพื่อใช้กับลูกบ้าง ของเล่นที่ดีที่สุดสำหรับลูกก็คือตัวคุณพ่อคุณแม่เองนะคะ รับฟังเรื่องต่างๆการรับฟังเรื่องต่างๆจากลูก ก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่จะช่วยให้ลูกรับรู้ว่าเรานั้นรักและห่วงใยเค้า ชื่นชมลูกเมื่อลูกทำสิ่งดีๆ ก็ควรมีการชื่มชม เพื่อให้ลูกรู้สึกภาคภูมิใจ และอยากทำสิ่งดีๆต่อไปค่ะ การบอกด้วยคำพูดการบอกรักด้วยคำพูดง่ายๆ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อคุณแม่ และลูกได้ดีค่ะ สร้างบรรยากาศครอบครัวที่ดีการทำบรรยากาศภายในครอบครัวให้ดี มีการหยอกล้อ เล่นสนุกกันอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวอบอุ่น และเป็นการบอกรักอีกหนึ่งทางที่ดีมากๆเลยค่ะ #คุณแม่ #มัมมี้ลิเชียสจูซ #น้ำหัวปลี #กระตุ้นน้ำนม #บำรุงนมแม่ #อาหารเพิ่มน้ำนม #น้ำขิงออแกนิค #น้ำขิง #น้ำหัวปลีออแกนิค #น้ำหัวปลี #น้ำปลีกล้วย #เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ #เครื่องดื่มบำรุงน้ำนม #อาหารคลีน #ลดน้ำหนัก #organic #gingerjuice #bananaflowerjuice #healthydrink #mommymusthave #mommyknowsbest
อาหารธรรมชาติจำเป็นต่อคุณแม่อย่างไร
ทำไมอาหารธรรมชาติถึงจำเป็นสำหรับคุณแม่? การเลือกทานอาหารของคุณแม่ลูกอ่อน เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก เนื่องจากสารอาหารต่างๆที่คุณแม่ได้รับเข้าไปในร่างกาย จะเปลี่ยนเป็นน้ำนม และส่งผลกับพัฒนาการต่างๆของลูก ทั้งในด้านร่างกาย และสติปัญญา #MommyliciousJuice ได้นำประโยชน์ของการเลือกทานอาหารธรรมชาติมาฝากกันค่ะ 1.ลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคอาหารธรรมชาติที่ผ่านการปรุงสุก และมีความสะอาด จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรค อย่างโรคท้องร่วง อาหารเป็นพิษ 2.ลดโอกาสในการเจอสิ่งปนเปื้อนการเลือกทานวัตถุดิบธรรมชาติที่มีคุณภาพและปลอดสารพิษ จะทำให้ร่างกายของคุณแม่ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ ลดโอกาสในการทานสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ที่จะส่งผลต่อลูกน้อย 3.มีคุณค่าทางโภชนาการสูงการเลือกทานอาหารจากธรรมชาตินั้นมีคุณค่าทางโภชนาการสูง จะช่วยให้พัฒนาการทางร่างกายของลูกเป็นไปได้ด้วยดี รวมถึงร่างกายของคุณแม่ ที่จะฟื้นตัวเร็ว กลับมามีสุขภาพแข็งแรงได้เหมือนตอนก่อนตั้งครรภ์นั่นเองค่ะ 4.ช่วยกระตุ้นน้ำนมและบำรุงร่างกายโดยสารอาหารที่จำเป็น คือ หัวปลี ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มน้ำนมแล้ว ยังช่วยในการต่อต้านอนุมูอิสระ ลดระดับน้ำตาลในเลือด อุดมไปด้วยวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายของลููก อย่างวิตามิน A,E และC ขิง มีคุณค่าทางอาหารสูง ช่วยในระบบไหลเวียนเลือด และไหลเวียนของน้ำนม รวมถึงช่วยให้ร่างกายของคุณแม่ สดชื่นขึ้นอีกด้วยค่ะ บำรุงสุขภาพคุณแม่ด้วย เครื่องดื่มจากธรรมชาติ มัมมี้ลิเชียสจูซ เครื่องดื่มสมุนไพรเข้มข้น อัดแน่นไปด้วยสมุนไพรที่จำเป็นต่อร่างกายของคุณแม่และเพิ่มการไหลเวียนโลหิต และเพิ่มปริมาณของน้ำนมแม่ ดื่มง่าย บำรุงได้ทุกวัน #คุณแม่ #มัมมี้ลิเชียสจูซ #น้ำหัวปลี #กระตุ้นน้ำนม #บำรุงนมแม่ #อาหารเพิ่มน้ำนม #น้ำขิงออแกนิค #น้ำขิง #น้ำหัวปลีออแกนิค…
สิ่งที่ควรเลี่ยง เมื่อกำลังตั้งครรภ์
ในช่วงก่อนตั้งครรภ์กับหลังตั้งครรภ์นั้น หลายๆคนอาจจะคิดว่าการใช้ชีวิตคงจะไม่ต่างกันมาก แต่จริงๆแล้วเมื่อคุณเริ่มตั้งครรภ์ ความเสี่ยงในเรื่องต่างๆจะมีมากขึ้นกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง หรือการเลือกทานอาหาร คุณแม่ต้องพิถีพิถันมากขึ้นเป็นพิเศษ และมีสิ่งใดบ้างที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และลูกน้อย อาหารดิบ การทานอาหารดิบ ที่ไม่ผ่านการปรุงให้สุก เช่น ปลาดิบ หรือผ่านการปรุงแต่ไม่สุกดี อย่างสเต็กแบบRare หรือ Medium Rare มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค หรือแบคทีเรียบางชนิด ที่จะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยและมีผลต่อลูกในท้องได้ค่ะ แต่ถ้าหากคุณแม่ต้องการทานจริงๆ ก็ควรเลือกร้านที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และมีคุณภาพเท่านั้นนะคะ อาหารเสริมบางชนิด อาหารเสริมหรือวิตามินบางชนิด ถ้าลองสังเกตที่ฉลากข้างขวด จะมีการเขียนกำกับไว้ว่า “สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน” เนื่องจากอาจจะมีสารบางตัว ที่จะส่งผลเสียกับลูก และพัฒนาการของลูกในท้อง รวมถึงวิตามินบางตัว ที่ถ้าหากคุณแม่ทานเข้าไปในปริมาณมาก อาจส่งผลให้ลูกในท้องตาบอดได้ ฉะนั้น หากคุณแม่ต้องการทานอาหารเสริมหรือวิตามินใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุดค่ะ บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้น เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับคุณแม่อย่างเด็ดขาด เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะส่งผลร้ายโดยตรงต่อพัฒนาการของลูก ทั้งพัฒนาการในการเติบโตของร่างกาย พัฒนาการทางด้านสมอง หรือในขั้นที่รุนแรงที่สุด อาจส่งผลให้ลูกเสียชีวิตได้ อาหารรสจัด หากคุณแม่ชื่นชอบในการทานอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นรสใดก็ตาม อย่างเค็มจัด เปรี้ยวจัด หรือเผ็ดจัด ช่วงที่มีน้อง ควรลดความจัดจ้านของอาหารลง เนื่องจากอาหารรสจัดมีผลต่อระบบย่อยอาหาร อาจทำให้เกิดอาการแสบท้อง…
กฎหมายแรงงานกับสิ่งที่คุณแม่ควรรู้
คุณแม่ที่กำลังตั้งท้อง หรือคนที่กำลังวางแผนจะมีลูก ทราบกันหรือไม่ว่า กฎหมายแรงงานของประเทศไทยนั้นมีกฎหมายคุ้มครองแรงงานหญิงที่กำลังตั้งครรภ์อย่างไรบ้าง #MommyliciousJuice ได้รวบรวมนำมาให้ได้อ่านกัน เพื่อให้ได้ทราบถึงสิทธิประโยชน์ที่พึงจะมีมาให้ทราบกัน คนท้องขอเปลี่ยนงานได้คุณแม่ที่กำลังตั้งท้องที่คิดว่าสายงานของตัวเองมีงานหนักเกินไป หรือรู้สึกว่าอยากเปลี่ยนงานแบบชั่วคราวในระหว่างที่ท้อง สามารถขอใบรับรองแพทย์เพื่อยืนยันว่า คุณแม่ไม่สามารถทำงานในหน้าที่เดิมต่อได้ เพื่อนำไปยื่นให้กับนายจ้างเพื่อขอเปลี่ยนงานชั่วคราวได้ โดยนายจ้างต้องเปลี่ยนงานที่เหมาะสมให้ หากไม่ปฏิบัติตาม จะมีโทษจำคุก หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ห้ามให้คนท้องทำงานในช่วงเวลา 22.00 น. ถึง 06.00 น.เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่คนท้องต้องได้รับการพักผ่อน โดยรวมถึงการทำงานล่วงเวลาและการทำงานในวันหยุด โดยถ้าหากหญิงตั้งครรภ์เคยทำงานในกะกลางคืน นายจ้างต้องเปลี่ยนช่วงเวลาในการทำงานเป็นกะกลางวันให้แทน ฉะนั้นคุณแม่ที่ทำงานกะกลางคืน สามารถยื่นคำขอเปลี่ยนกะทำงานกับนายจ้างได้เลยนะคะ คนท้องมีสิทธิลาเพื่อการคลอดบุตร คุณแม่ที่กำลังตั้งท้องสามารถลางาน เพื่อตรวจครรภ์และคลอดบุตรได้ ไม่เกิน 90 วันต่อครั้ง โดยนับรวมวันหยุดต่างๆเข้าไปด้วย และนายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างเต็มเวลาเป็นเวลา 45 วัน โดยอีก 45 วันที่เหลือ คุณแม่สามารถขอสิทธิประโยชน์ทดแทนได้จากกองทุนประกันสังคมค่ะ ห้ามเลิกจ้างหญิงตั้งท้องหากคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องโดนบริษัทเลิกจ้างโดยไม่ได้กระทำความผิดใดๆ นายจ้างจะมีความผิดทางอาญา ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ไม่นับรวมการเลิกจ้างด้วยเหตุผลอื่น…
9 วิตามิน ที่คุณแม่ต้องการ
คุณแม่ทราบกันไหมคะว่า วิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายของคุณแม่ มีอะไรบ้าง #MommyliciousJuice ได้นำ 9 วิตามิน ที่มีความจำเป็นต่อร่างกายของคุณแม่มาฝากกัน 1. วิตามิน E ช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท,ระบบกล้ามเนื้อ และระบบสืบพันธุ์ โดยสามารถหาทานได้จาก มัลเบอรี่,มะเขือเทศ , มะม่วง ,แก้วมังกร เป็นต้น 2. วิตามิน C วิตามินซีที่ได้จากผักหรือผลไม้ อย่าง ส้ม มะนาว มะเขือเทศ และขิง จะช่วยให้คุณแม่ได้รับสารที่ช่วยในการเพิ่มภูมิต้านทาน วิตามินซี ถือเป็นวิตามินที่จำเป็นสำหรับคุณแม่อย่างยิ่ง เนื่องจากหากขาดวิตามินซี จะทำให้เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือการคลอดก่อนกำหนดได้ 3. วิตามิน B6 วิตามิน B6 มักพบได้ในกล้วย,คะน้า,ปลาทูน่า,ผักชีฝรั่ง และไข่แดง มีสารกระตุ้นช่วยให้เกิดการเผาผลาญกรดอะมิโน 4. วิตามิน B1 หรือเรียกอีกอย่างว่า ไทอามีน ที่ช่วยในระบบย่อยอาหาร ช่วยลดอาการเหน็บชา การเป็นตะคริว ซึ่งคุณแม่ต้องการวิตามิน B1 มากที่สุดในช่วง 3…
รับมืออาการป่วยตอนท้อง
เจอทั้งแดด ทั้งฝน และ PM 2.5 แม่เพลีย!!! เมื่อคุณแม่เกิดอาการเจ็บป่วยทางร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัด อาการท้องเสีย หรือโรคสามัญอื่นๆ สิ่งที่จะสามารถทำได้ในทันทีคือ ทานยาสามัญประจำบ้าน เพื่อบรรเทาอาการป่วย โดยไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ แต่ในกรณีของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้น หากเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นมา ควรรับมืออย่างไร? 1.สังเกตอาการ เมื่อคุณแม่เริ่มรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ ต้องเริ่มทำเช็คลิสต์สังเกตอาการผิดปกติของตัวเองเช่น หายใจลำบาก , รู้สึกตัวร้อน,มีน้ำมูก การทำเช็คลิสต์นี้เป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อนำไปให้แพทย์วินิจฉัยได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น 2.อย่าทานยาเองหากไม่ใช่ยาที่คุณหมอสั่ง แนะนำว่าห้ามทานยาเองอย่างเด็ดขาด เพราะยาที่เราทานนั้นอาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ 3.รีบพบแพทย์เมื่อเกิดอาการเจ็บป่วย คุณแม่ควรรีบเข้าพบแพทย์ให้เร็วที่สุด โดยอย่าลืมนำเช็คลิสต์จากในข้อแรกไปให้คุณหมอ เพื่อประกอบการวินิจฉัยโรคด้วย.#คุณแม่ #มัมมี้ลิเชียสจูซ #น้ำหัวปล #กระตุ้นน้ำนม #บำรุงนมแม่ #อาหารเพิ่มน้ำนม#น้ำขิงออแกนิค #น้ำขิง #น้ำหัวปลีออแกนิค #น้ำหัวปลี #น้ำปลีกล้วย #เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ #เครื่องดื่มบำรุงน้ำนม #อาหารคลีน #ลดน้ำหนัก #organic #gingerjuice#bananaflowerjuice #healthydrink #mommymusthave #mommyknowsbest #ป่วยตอนท้อง #ไม่สบายตอนท้อง
ความแตกต่างระหว่างสาวโสด และคุณแม่ลูกอ่อน
ในชีวิตของผู้หญิงที่เปลี่ยนสถานะจากสาวโสดจนกลายมาเป็นคุณแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายนอกจากต้องรับมือกับการเปลี่ยนเเปลงของร่างกายแล้ว วิถีการใช้ชีวิตยังเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง #Mommylicious จะพาไปดู ความแตกต่างระหว่างสาวโสด และคุณแม่ลูกอ่อน ว่าจะมีความแตกต่างกันขนาดไหน ไปดูกันเลยค่ะ สาวโสดมีเวลาดูแลตัวเอง VS คุณแม่ให้เวลากับลูก ชีวิตของสาวโสดนั้น มีเงินและมีเวลามากมายที่จะใช้สำหรับการดูแลตัวเอง อย่างการทำสปา เข้าร้านทำผม หรือการทำเล็บ แตกต่างจากคุณแม่ ที่เวลาส่วนใหญ่นั้นทุ่มให้กับลูก โดยเฉพาะคุณแม่ลูกอ่อน ที่การดูแลลูก จำเป็นต้องใช้มากเป็นพิเศษ สาวโสดปาร์ตี้ยันเช้า VS คุณแม่หลับแต่หัวค่ำ สาวโสดกับงานปาร์ตี้ยันเช้า มักเป็นของคู่กัน สาวโสดส่วนใหญ่มักใช้เวลาในช่วงวันหยุดไปกับงานปาร์ตี้ ซึ่งจะมีพลังงานและเวลาเหลือเฟือในการเที่ยวจนสุดเหวี่ยง แตกต่างจากคุณแม่ ที่เรียกได้ว่า ว่างตอนไหนก็หลับตอนนั้น เพราะการเลี้ยงลูกอ่อน ไม่มีเวลาพักผ่อนที่แน่นอน โดยเฉพาะเมื่อลูกของคุณตื่นขึ้นมากลางดึก สาวโสดมีความฝันในการท่องเที่ยว VS คุณแม่มีความหวังอยากให้ลูกแข็งเเรง ความใฝ่ฝันของสาวโสด คือการท่องเที่ยว พบเจอสิ่งใหม่ๆ เพิ่มประสบการณ์ให้กับชีวิต แต่เมื่อคุณได้กลายเป็นคุณแม่แล้ว ความฝันนั้นก็อาจจะต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน เพราะมีความหวังที่จะให้เวลากับลูกน้อย เพื่อมีสุขภาพแข็งแรง และเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพเข้ามาแทน ไอเท็มติดกระเป๋าของสาวโสด มีแต่เครื่องสำอาง VS ไอเท็มติดกระเป๋าของแม่ มีแต่ของใช้ลูก เชื่อว่า เครื่องสำอาง และสกินแคร์ต่างๆคือไอเท็มที่ต้องมีติดกระเป๋าของสาวๆ ไม่ว่าจะเป็น ลิปสติก,แป้งพัฟ หรือบลัชออน แต่เมื่อคุณกลายเป็นคุณแม่แล้ว ไอเท็มติดกระเป๋าของคุณจะกลายเป็น…
วิธีฝึกให้ลูกเป็นเด็กทานง่าย
ฝึกลูกเป็นเด็กทานง่าย . เด็กๆคนไหนมีพฤติกรรมทานยากกันบ้างคะ? คงจะสร้างความน่าเป็นห่วง ให้กับคุณพ่อคุณแม่ไม่น้อย เพราะถ้าเด็กๆทานยาก อาจทำให้เด็กๆเลือกทาน แต่สิ่งที่ตัวเองชอบ และได้รับสารอาหารเข้าสู่ร่างกายได้ไม่ครบถ้วน หรืออาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคขาดสารอาหารได้ คุณพ่อคุณแม่ที่ไม่อยากให้ลูกๆ ทานยากควรฝึกลูกอย่างไร? วันนี้ #MommyliciousJuice ได้นำวิธีฝึกลูกให้เป็น เด็กทานง่ายมาฝากกันค่ะ . 1.ฝึกให้ทานอาหาร Finger Food อาหารแบบ Finger Food จะทำให้เด็กๆจับทานได้ถนัดมือ ซึ่งการฝึกนี้ควรฝึกเด็กๆตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไปนะคะ อาหารที่เตรียมไว้ ควรมีไว้ให้หลากหลาย ทั้งเนื้อสัตว์ ข้าว ขนมปัง ผัก และผลไม้ เพื่อให้เด็กๆได้ลองหยิบทานด้วยตัวเองค่ะ ซึงเด็กๆที่หยิบอาหารทานเองจะทานง่ายกว่าเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ป้อนนะคะ . 2.เพิ่มสีสันให้การทาน ไม่ว่าจะเป็นสีสันและหน้าตาของอาหารที่ควรทำให้มีหน้าตาเหมือนการ์ตูน มีความน่ารัก และน่าทานมากขึ้นแล้ว อุปกรณ์ในการทาน อย่างจาน ช้อน และเเก้วน้ำก็ควรมีสีสันที่สวยงาม เพื่อให้เด็กๆอยากทานนั่นเองค่ะ . 3.งดขนมก่อนมื้ออาหาร การให้ลูกๆทานขนมก่อนมื้ออาหารจะทำให้เด็กๆเกิดความอิ่ม และไม่อยากทานอาหาร รวมถึงขนมหวานเมื่อทานเข้าไปมากๆอาจทำให้เด็กๆเกิดโรคอ้วน และมีปัญหาสุขภาพอื่นๆตามมาค่ะ จึงควรทานแต่น้อย และเน้นอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการจะดีกว่า .…
Got any book recommendations?